คุณเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงเป็นดิจิทัลมากเพียงใด
การมุ่งสู่การเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้เป็นแบบดิจิทัลไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้
นี่คือเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยการดำเนินงานโดยอัตโนมัติ ธุรกิจต่างๆ ของที่นี่จึงสามารถตอบสนองได้เร็วขึ้น ลดอุปสรรค และขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว
โดยสรุปแล้ว การดำเนินงานโดยอัตโนมัติอย่างชาญฉลาดที่นำไปใช้งานได้อย่างถูกต้อง จะช่วยให้บริษัทขนาดเล็กสามารถคิดใหญ่ทำใหญ่ได้
และนั่นคือขุนพลแห่งการพิชิตศึก
ลองนึกภาพบริษัทขนาดเล็กที่มีข้อได้เปรียบด้านเทคโนโลยีเหมือนกับธุรกิจระดับโลก โดยมีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงและขยายตัวได้ในเวลาไม่กี่เดือน ทั้งยังมีพลังในการทำให้ขั้นตอนการทำงานด้านเอกสารเป็นไปโดยอัตโนมัติและพลังในการเปลี่ยนแปลงการจัดการขั้นตอนการทำงานให้เกิดขึ้นได้เกือบในทันที
และทำทั้งหมดนั้นด้วยระบบรักษาความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ระดับชั้นหนึ่ง
ในขณะที่บริษัทต่างๆ มุ่งสู่อนาคตที่มีการดำเนินงานโดยอัตโนมัติและการทำงานแบบดิจิทัล โดยทั่วไปแล้วเรื่องนี้มีความหมายอย่างไรกับธุรกิจ พนักงาน และคนทำงาน
เริ่มต้นด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม
ตลาดซื้อขายใหม่ต้องใช้ทักษะใหม่ เพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลง คุณจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี นักวิเคราะห์ข้อมูล และบุคลากรที่มีทักษะความเชี่ยวชาญขั้นสูงในด้านต่างๆ อย่างการรักษาความปลอดภัยในโลกไซเบอร์
ส่วนที่ยากคือ คู่แข่งของคุณก็กำลังมองหาสิ่งเดียวกันนี้อย่างแน่นอน
วิธีเดียวที่จะอยู่ล้ำหน้าในการตามล่าหาผู้มีทักษะเหล่านี้ได้ คือ การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เมื่อมีระบบการจัดการขั้นตอนการทำงานทั้งกระบวนการ คุณก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากโซลูชันความปลอดภัยขั้นสูงที่ดำเนินงานโดยอัตโนมัติได้
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีสามารถนำพาการเปลี่ยนแปลงได้เท่านั้น
นี่คือเคล็ดลับ 4 ข้อเกี่ยวกับการวางคนเป็นศูนย์กลางเพื่อทำให้การเปลี่ยนแปลงธุรกิจขององค์กรเป็นดิจิทัลได้อย่างง่ายดาย
การเปลี่ยนแปลงเริ่มจากบนสุด
ในการเร่งการเปลี่ยนแปลงเป็นดิจิทัลนั้น คุณต้องมีบุคลากรที่ชำนาญด้านดิจิทัลในทีมบริหารอาวุโส โดยอาจเป็นการจ้างใหม่หรือสมาชิกที่มีอยู่ในทีมก็ได้ สิ่งสำคัญคือการระบุและการให้อำนาจบุคคลเหล่านั้น จากนั้น ก็ปล่อยให้พวกเขาตั้งเป้าหมายเฉพาะและหลักชัยต่างๆ สู่เป้าหมาย
นำไปใช้ในทีม
ทันทีที่กำหนดผู้นำได้แล้ว ให้นำการเปลี่ยนแปลงนั้นเข้าสู่ระดับทีม โดยเริ่มจากการกำหนดบทบาทและความรับผิดชอบของแต่ละบุคคลใหม่ เพื่อให้บุคคลเหล่านี้ทำงานตามเป้าหมายขององค์กร จุดเริ่มต้นที่ดีคือการดำเนินงานในรูปแบบดิจิทัลโดยเป็นไปคราวละหนึ่งงาน
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้หาคนที่สามารถแปลและผสานวิธีการทำงานและกระบวนการทางดิจิทัลเข้าไปในวิธีการทำงานที่มีอยู่ หากได้พิสูจน์แล้วว่ายาก ให้หาที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญภายนอกซึ่งจะสามารถช่วยคุณได้อย่างมาก
ทำให้สามารถใช้วิธีการทำงานใหม่ได้
การทำให้เป็นดิจิทัลช่วยเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราทำสิ่งต่างๆ โดยทำให้เราทำงานร่วมกันมากขึ้น ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ในการทำงานมากขึ้น และวางลูกค้าเป็นศูนย์กลางมากขึ้น
กุญแจสำคัญที่ทำให้เกิดการรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้คือ การทำให้คนสามารถทำได้
ประการแรก ให้ทำผ่านการศึกษาและการฝึกอบรม รวมทั้งสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เปลี่ยนแปลงได้ง่าย ประการที่สอง ทำโดยให้บุคลากรของคุณออกความคิดเห็นว่าต้องการและไม่ต้องการที่จะเห็นอะไรเป็นดิจิทัล
การสื่อสารคือกุญแจสำคัญ
การเปลี่ยนแปลงบริษัทไม่อาจทำได้ในความมืด ทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องรู้สึกอยากมีส่วนกำหนด ทำแผนให้ชัดเจนและสื่อสารกับทีมต่างๆ ของคุณ การวิจัยแสดงให้เห็นว่า มีแนวโน้มที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นสามเท่าก็ต่อเมื่อผู้คนเข้าใจและยอมที่จะร่วมเปลี่ยนแปลง
ให้ตั้งเป้าหมายและไทม์ไลน์เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในทันที
การเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา
แนวโน้มสู่การเป็นดิจิทัลนั้นหยุดอยู่ที่นี่แล้ว และการลงมือทำในตอนนี้คือสิ่งสำคัญ แต่ขอให้จำไว้ว่าสิ่งต่างๆ ไม่ได้เปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืน การมีเทคโนโลยีที่เหมาะสม บุคลากรที่เหมาะสม และแผนงานที่เหมาะสมนั้นต้องใช้เวลา
ที่ FUJIFILM Business Innovation เราช่วยคุณเปลี่ยนความกังวลใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงให้เป็นอิสรภาพในการเติบโต
หากคุณต้องการทราบเพิ่มเติม ทีมของเรายินดีที่จะพูดคุยเกี่ยวกับโซลูชันที่จะช่วยเร่งการเติบโตให้กับธุรกิจของคุณ