FUJIFILM Business Innovation และบริษัทในเครือยังคงดําเนินหลากหลายกิจกรรมเพื่อระบุหาและตอบโจทย์ความต้องการในท้องถิ่น เราขอแนะนําตัวอย่างกิจกรรมดังต่อไปนี้
กิจกรรมของเราที่ FUJIFILM Business Innovation รวมไปถึงการส่งเสริมและดูแลกิจกรรมทางศิลปะโดยผู้พิการ รวมทั้งเพิ่มความสําคัญของกิจกรรมเหล่านี้ในชีวิตของพวกเขา
FUJIFILM Business Innovation Japan ยังคงสนับสนุนนิทรรศการศิลปะที่จัดขึ้นโดย Tohoku Shogaisha Geijutsu Shien Kiko ซึ่งเป็นมูลนิธิสาธารณประโยชน์ที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนความมุ่งมั่นในงานศิลปะของผู้พิการ และเปิดโอกาสให้ได้จัดแสดงผลงานที่ได้รับรางวัล บริษัทให้การสนับสนุนนี้ร่วมกับ HASU Club ของ FUJIFILM Business Innovation (ดู *1)
ผลงานที่ได้รับรางวัลขององค์กรในงาน "งานนิทรรศการโลกส่งเสริมผู้พิการที่มีพรสวรรค์ด้านศิลปะที่เซ็นได" ประจําปีจะแสดงอยู่ในห้องจัดแสดงของสํานักงานกลางของ FUJIFILM Business Innovation Japan ในโทโยสุ (โตเกียว)
การจัดแสดงผลงานเหล่านี้ไม่เพียงแต่สนับสนุนความเป็นอิสระของผู้พิการเท่านั้น แต่ยังมอบความสบายใจและแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้าชมห้องจัดแสดงอีกด้วย
- *1 HASU Club ของ FUJIFILM Business Innovation ซึ่งเป็นองค์กรที่มุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมทางสังคมซึ่งประกอบด้วยอาสาสมัครจากพนักงานเกษียณอายุของ FUJIFILM Business Innovation และบริษัทในเครือ โดย HASU Club ที่ได้รับเงินทุนจากการมีส่วนร่วมของสมาชิกนี้ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมของอาสาสมัครและร่วมทำการบริจาคเงินต่าง ๆ
ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกซึ่งเป็นสถานที่หลักที่ FUJIFILM Business Innovation ดำเนินธุรกิจอยู่นั้น มีเด็กจํานวนมากที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงการศึกษาระดับประถมศึกษา โครงการนี้มีส่วนในการลดช่องว่างทางการศึกษาของเด็กในประเทศตลาดเกิดใหม่ ด้วยการแจกจ่ายสื่อการเรียนรู้สําหรับการศึกษาระดับประถมศึกษา
FUJIFILM Business Innovation เป็นผู้กํากับดูแลโครงการทั้งหมด รวมถึงค้นหาพันธมิตรที่จะบริจาคเนื้อหาและผู้สนับสนุนทางการเงินซึ่งจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านการพิมพ์และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพื่อสร้างสื่อการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของท้องถิ่น โดยมีการพิมพ์สื่อออกมาตามจำนวนที่ต้องการโดยใช้เครื่องพิมพ์ของ FUJIFILM Business Innovation และมีการแจกจ่ายสำเนาให้กับเด็กที่ขาดโอกาสทางการศึกษาที่เพียงพอ เพื่อเป็นช่องทางในการสนับสนุนการศึกษาให้แก่พวกเขาร่วมกับ NGO และชุมชนในท้องถิ่น
เราได้เปิดตัวโครงการนี้เป็นครั้งแรกที่ฟิลิปปินส์ในปี 2014 และได้ขยายไปยังเมียนมาร์ ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เราได้บรรลุเป้าหมายแรกเริ่มของ “การแจกจ่ายสื่อการเรียนรู้ให้แก่เด็ก 100,000 คนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกภายใน 10 ปี” ก่อนกําหนด โดยมีเด็ก 111,500 คนใน 6 ประเทศได้รับประโยชน์จากโครงการของเราในปีงบประมาณ 2021 แม้ว่าโครงการนี้จะได้บรรลุเป้าหมายของทางโครงการไปแล้ว แต่เรายังคงใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีชั้นนําของเราต่อไป เพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในประเทศที่เราดําเนินงานตามสถานการณ์และความต้องการเฉพาะของประเทศเหล่านั้น
การแพร่หลายของกิจกรรม
กิจกรรมของ FUJIFILM Business Innovation Vietnam ที่เป็นความร่วมมือกับมูลนิธิ Saigon Children's Charity
ที่ FUJIFILM Business Innovation เรากําลังพัฒนากิจกรรม CSV ในการทําสําเนาเอกสารทางประวัติศาสตร์เพื่อใช้เป็นทรัพย์สินดิจิทัลทางวัฒนธรรม ด้วยการผสมผสานอุปกรณ์มัลติฟังก์ชันของเราเข้ากับเทคโนโลยีล่าสุดต่าง ๆ ภายใต้ธีม "การสื่อสารทรงคุณค่าอันไร้กาลเวลา" เราได้เปิดตัวโครงการริเริ่มนี้ที่เกียวโตในปี 2008 และเริ่มขยายโครงการไปทั่วทั้งญี่ปุ่นในปี 2014 ในปัจจุบัน ด้วยการใช้ FUJIFILM Business Innovation Japan Kyoto เป็นฐานในการดำเนินโครงการเราได้รับคําขอจากทั่วญี่ปุ่นเพื่อสร้างเอกสารทางประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่ ที่จะสามารถสัมผัสและจัดการได้เพื่อใช้แทนเอกสารต้นฉบับที่จะต้องเก็บรักษาไว้เพื่อให้ไม่เก่าเร็ว เราได้รับรางวัล Good Design Award 2020 สําหรับโครงการริเริ่มนี้ เพื่อเป็นการยกย่องระบบในการคืนรายได้ส่วนหนึ่งจากบริการให้แก่เจ้าของของเอกสารต้นฉบับในฐานะเงินช่วยเหลือ ตลอดจนจุดยืนของเราในการสนับสนุนการจัดนิทรรศการและการใช้เอกสารทางประวัติศาสตร์อย่างยั่งยืนแบบพหุภาคี นอกจากความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการทําสำเนาที่ดำเนินมาเป็นเวลาหลายปี เรายังคงมุ่งมั่นที่จะดําเนินกิจกรรมที่มีส่วนช่วยในการสำรวจเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่หายากและไม่สามารถทดแทนได้ การเปิดเผยเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่ไม่เปิดเผยมาก่อน การถ่ายทอดคำสอน ภูมิปัญญา ความคิด และความรู้สึกของบรรพบุรุษของเรา รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ ที่เป็นการสร้างประโยชน์ต่อสังคมด้วยเอกสารเหล่านั้น และเพื่อส่งต่อไปยังคนรุ่นหลัง
- จํานวนเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่เราได้สร้างขึ้นมาใหม่: สำเนามากกว่า 500 ชุด/ฉบับ
- เอกสารทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดที่เราได้สร้างขึ้นมาใหม่: ประมาณ 14,000–300 ปีสากลศักราช ยุคโจมง
- จํานวนวิศวกรนักพัฒนาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างเอกสารขึ้นมาใหม่: มากกว่า 12 ท่าน
- จํานวนนักศึกษาฝึกงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างเอกสารขึ้นมาใหม่: รวมกันมากกว่า 80 ท่าน
(1) ภาพจําลองของ Nariai-ji Sankei Mandala (ภาพมันดาลาการแสวงบุญของวัดนาริอาอิจิ) ซึ่งอยู่ในความครอบครองของวัดนาริอาอิจิ ในมิยาสึ เกียวโต ภาพมันดาลานี้คือสิ่งดึงดูดผู้ที่มาเยี่ยมชมวัดและเปรียบเสมือนเป็นแผนที่ของแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์
(2) ภาพจําลองของ Chokudai Ka Ryaku-zu Kou ซึ่งอยู่ในความครอบครองของร้าน Kamesuehiro ซึ่งเป็นร้านขนมหวานในชุเกียวกุ เกียวโต ภาพของเค้กญี่ปุ่นที่จัดแสดงในงานขนมหวานที่เป็นภาพวาดอยู่ในสมุดบันทึกเล่มนี้
(3) ภาพจําลองของ "Denfujiwaranoyukinarihitsukanashosoku" ซึ่งตั้งอยู่ใน Kyukyodo ซึ่งเป็นร้านขายเครื่องเขียนและเครื่องหอมในเขตนากะเงียว เกียวโต "ขุมทรัพย์และผลงานชิ้นเอกแห่งชาติจากปลายศตวรรษที่ 11 ที่แสดงให้เห็นถึงความสง่างามของบทงานเขียนคานะจากยุคเฮอัง"
เราได้สร้างระบบที่จะมีการส่งคืนค่าธรรมเนียมที่ชำระโดยผู้คนที่ใช้บริการส่วนหนึ่งกลับไปยังเจ้าของเอกสารเพื่อเป็นเงินช่วยเหลือ ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นส่วนหนึ่งของเราในการรักษาทรัพย์สินทางวัฒนธรรมและส่งต่อทรัพย์สินเหล่านั้นไปยังคนรุ่นหลัง
นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท FUJIFILM Business Innovation ได้มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการสื่อสารที่ดีกว่าเดิมเพื่อช่วยให้เกิดความเข้าใจร่วมกันและความสามัคคีของผู้คนในสังคม เราได้จัดตั้งกองทุนอนุสรณ์ Setsutaro Kobayashi ขึ้นในปี 1977 เพื่อยกย่องความสําเร็จของ Setsutaro Kobayashi (1899–1977) ผู้ดำรงตำแหน่งประธานบริษัทคนแรก โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการบรรลุความมุ่งมั่นนี้ (กองทุนนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็นกองทุน Kobayashi ในปี 2016) ด้วยการใช้กองทุนนี้ เราได้เปิดตัว “โครงการมอบทุนวิจัยให้แก่ผู้ขอรับทุนชาวต่างชาติสำหรับการศึกษาระดับปริญญาเอกในประเทศญี่ปุ่น” เป็นโครงการริเริ่มเพื่อมอบทุนวิจัยให้แก่ผู้คนจากประเทศในเอเชียแปซิฟิกที่กำลังศึกษาหลักสูตรปริญญาเอกในสาขามนุษยศาสตร์หรือสังคมศาสตร์ในประเทศญี่ปุ่น เราตัดสินใจจัดโครงการนี้ขึ้นมาตามแนวคิดที่ว่า เราจําเป็นต้องช่วยให้ผู้นําในอนาคตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเข้าใจญี่ปุ่นได้ดียิ่งขึ้น และส่งเสริมความเข้าใจร่วมกันระหว่างญี่ปุ่นกับประเทศต่าง ๆ ผ่านการแลกเปลี่ยนทางวิชาการและวัฒนธรรม เพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการสร้างชุมชนนานาชาติที่มีชีวิตชีวามากขึ้น ในปี 1996 เรายังได้จัดตั้งโครงการความร่วมมือ Kobayashi เพื่อมอบทุนให้แก่นักวิจัยชาวญี่ปุ่นเพื่อช่วยให้พวกเขาเข้าใจถึงประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้อย่างลึกซึ้งกว่าเดิม และเป็นเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างญี่ปุ่นกับประเทศเหล่านี้
Yotaro Kobayashi (1933–2015) ซึ่งเป็นดำรงตำแหน่งประธานคนแรกของกองทุนที่สนับสนุนการจัดตั้งและพัฒนากองทุนกล่าวว่า “จุดประสงค์สูงสุดของการศึกษาในต่างประเทศก็คือการแลกเปลี่ยนความรู้อย่างลึกซึ้งกับผู้คนที่มีเป้าหมายเดียวกัน รวมถึงการได้พบเจอกับสิ่งใหม่ ๆ” เขายังคงดําเนินกิจกรรมนี้ต่อไปเพื่อมีส่วนร่วมในการสร้างคุณค่าทางสังคมให้กับคนรุ่นปัจจุบันและอนาคต และเพื่อแก้ไขปัญหาทางสังคม แม้ว่าจะมีส่วนร่วมในบางส่วนเพียงเล็กน้อยก็ตาม ในปีงบประมาณ 2018 ซึ่งเป็นระยะเวลา 41 ปีหลังจากจัดตั้งกองทุน เราจึงได้ยุติโครงการมอบทุนวิจัยนี้ด้วยเหตุผลที่ว่าโครงการดังกล่าวได้ดําเนินการตามบทบาทหน้าที่ของตัวโครงการเองในบางขอบเขตเรียบร้อยแล้ว
ในปีงบประมาณ 2018 ซึ่งเป็นระยะเวลา 41 ปีหลังจากจัดตั้งกองทุน เราจึงได้ยุติโครงการมอบทุนวิจัยนี้ด้วยเหตุผลที่ว่าโครงการดังกล่าวได้ดําเนินการตามบทบาทหน้าที่ของตัวโครงการเองในบางขอบเขตเรียบร้อยแล้ว
นักวิจัยมากถึง 1,455 คนได้รับเงินช่วยเหลือจากโครงการนี้ และนักวิจัยจํานวนมากต่างมีส่วนร่วมอย่างมีความหมายในภาควิชาการ อุตสาหกรรม และภาครัฐทั้งในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศ เราหวังว่านักวิจัยเหล่านี้จะยังคงมีส่วนร่วมและส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจร่วมกันและการพัฒนาทางวัฒนธรรม ในฐานะสะพานเชื่อมระหว่างประเทศญี่ปุ่นกับประเทศในเอเชียแปซิฟิก ตลอดจนประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกด้วย
| โครงการ | โครงการมอบทุนวิจัยสําหรับผู้ขอรับทุนชาวต่างชาติสำหรับการศึกษาระดับปริญญาเอกในประเทศญี่ปุ่น | โครงการความร่วมมือ Kobayashi |
|---|---|---|
| ระยะเวลา | ปีงบประมาณ 1984-2018 | ปีงบประมาณ 1996-2018 |
| เป้าหมาย | นักวิชาการรุ่นเยาว์จากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ลงทะเบียนศึกษาหลักสูตรปริญญาเอกสาขามนุษยศาสตร์หรือสังคมศาสตร์ ณ บัณฑิตวิทยาลัยต่าง ๆ ของประเทศญี่ปุ่น | นักวิจัยรุ่นเยาว์ชาวญี่ปุ่นที่ลงทะเบียนศึกษาหลักสูตรปริญญาเอกสาขามนุษยศาสตร์หรือสังคมศาสตร์ และกําลังทํางานวิจัยเกี่ยวกับประเทศและภูมิภาคอื่น ๆ ในเอเชียแปซิฟิก |
| ผู้ได้รับทุนทั้งหมดจนถึงปัจจุบัน | 1,243 ราย (เป็นเวลา 35 ปี นักศึกษาจาก 23 ประเทศและภูมิภาค) | 212 ราย (เป็นเวลา 23 ปี） |
ผลงานการวิจัยของผู้รับทุนได้รับการตีพิมพ์ในรูปแบบของรายงาน ซึ่งเราได้บริจาคสำเนาของผลงานการวิจัยดังกล่าวให้แก่สถาบันวิจัยต่าง ๆ รวมไปถึงห้องสมุดของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ตามคําขอ
เรามีบัญชี Facebook สําหรับกองทุน Kobayashi เพื่อเอาไว้แลกเปลี่ยนและแบ่งปันข้อมูลกับนักวิจัยที่ได้รับทุน และยังคงเปิดใช้งานบัญชีดังกล่าวต่อไปแม้ว่าตัวโครงการเองจะได้ยุติไปแล้ว
มีผู้คนในประเทศญี่ปุ่นราว 300,000 คนที่คาดว่าจะมีความบกพร่องทางสายตา โดย 60-70% ของตัวเลขดังกล่าวถือว่าเป็นผู้ที่มีภาวะสายตาเลือนราง สําหรับนักเรียน/นักศึกษาที่มีภาวะสายตาเลือนรางซึ่งอ่านข้อความและรูปภาพในตําราเรียนทั่วไปได้อย่างลำบากแล้ว สำนักพิมพ์ตําราเรียนหลายแห่งจึงได้นำเสนอตําราเรียนที่มีตัวหนังสือขนาดใหญ่ให้ อย่างไรก็ตาม นักเรียน/นักศึกษาแต่ละรายจะมีระดับและวิธีการมองเห็นแตกต่างกันไป และนักเรียน/นักศึกษาบางคนก็ประสบปัญหาในการอ่านตําราเรียนมาตรฐานที่มีตัวหนังสือขนาดใหญ่ดังกล่าว เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง องค์กรอาสาสมัครจะสร้างตําราเรียนที่เหมาะกับความต้องการอันเฉพาะเจาะจงของนักเรียน/นักศึกษาแต่ละคน
FUJIFILM Business Innovation Japan สนับสนุนกิจกรรมดังกล่าวด้วยการอนุญาตให้ผู้สร้างตําราเรียนอาสาสมัครและนักเรียน/นักศึกษาที่มีภาวะสายตาเลือนรางกับผู้ปกครองสามารถใช้อุปกรณ์มัลติฟังก์ชันสีในสํานักงานขายและให้บริการของเรา รวมถึงบริษัทฝ่ายขายทั่วญี่ปุ่นได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โครงการสนับสนุนนี้เริ่มต้นในปี 1989 ในสถานประกอบธุรกิจบางแห่งของเราในคานางาวะ ในปี 1994 โครงการได้ขยายต่อไปยังสํานักงานขายและบริการทั่วญี่ปุ่น ทําให้โครงการริเริ่มนี้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางโดยเหล่าองค์กรอาสาสมัคร ตลอดจนนักเรียน/นักศึกษาที่มีภาวะสายตาเลือนรางและบิดามารดากับครูของพวกเขา เราจะยังคงสนับสนุนการตีพิมพ์ตําราเรียนขนาดใหญ่นี้ทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่นต่อไป โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาสําหรับนักเรียน/นักศึกษาที่มีภาวะสายตาเลือนราง
Special Olympics เป็นเทศกาลกีฬาสําหรับผู้ที่มีภาวะบกพร่องทางสติปัญญา ในประเทศญี่ปุ่น "Special Olympics Nippon" (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า SON) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1994 นั้นมีหน้าที่ส่งทีมงานของญี่ปุ่นไปร่วมการแข่งขันระหว่างประเทศ จัดการแข่งขันระดับชาติ สนับสนุนการฝึกซ้อมประจําวันของนักกีฬา และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยกิจกรรมภายในประเทศขององค์กรได้รับการสนับสนุนจากอาสาสมัครมากกว่า 10,000 คนจากทั่วประเทศ
FUJIFILM Business Innovation เริ่มสนับสนุน SON ในปี 1995 ซึ่งเป็นปีถัดมาหลังจากที่ก่อตั้ง ปัจจุบัน สํานักงานสาขาของ FUJIFILM Business Innovation Japan มีบทบาทสําคัญในการสนับสนุนที่เหมาะสมสําหรับแต่ละภูมิภาคทั่วญี่ปุ่นที่จัดการแข่งขัน ซึ่งรวมไปถึงในรูปแบบของการบริจาคและการสนับสนุนการพิมพ์เอกสาร ยิ่งไปกว่านั้น พนักงานของเรายังได้สนับสนุน Special Olympics ระดับภูมิภาคในฐานะอาสาสมัครอีกด้วย
การสร้างและการแจกจ่ายบัตรประจําตัว
การแข่งขันฟุตบอลระดับมัธยมศึกษาตอนปลายทั้งหมดของญี่ปุ่นที่เริ่มต้นในปี 1917 เป็นการแข่งขันที่ได้รับการสนับสนุนโดยสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น บริษัทถ่ายทอดการโฆษณาเชิงพาณิชย์ 43 บริษัท และสหพันธ์กีฬามัธยมศึกษาตอนปลายทั้งหมดของญี่ปุ่น โดยการแข่งขันดังกล่าวเป็นตัวชี้วัดว่าโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายของญี่ปุ่นแห่งใดที่มีทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดจากโรงเรียนที่เข้าร่วมประมาณ 4,000 แห่ง และเป็นการแข่งขันที่ผู้เล่นฟุตบอลระดับมัธยมทุกคนต่างใฝ่ฝันที่จะเข้าร่วม นอกจากนี้ ยังขึ้นชื่อว่าได้ผลิตผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมจํานวนมาก อย่างเหล่าผู้เล่นที่อยู่ในทีมชาติของญี่ปุ่นและ J.League ดังนั้น รายการแข่งขันนี้จึงดึงดูดความสนใจไม่เพียงแต่จากแฟน ๆ ฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังดึงดูดผู้คนมากมายจากทุกแวดวงด้วย FUJIFILM Business Innovation ได้สนับสนุนการแข่งขันประจําปีนี้มาตั้งแต่ปี 1970 ซึ่งยังเป็นสมัยที่ฟุตบอลยังไม่ได้เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น และเกินกว่า 20 ปีก่อนที่จะมีการก่อตั้ง J.League (Japan Professional Soccer League ที่เปิดตัวในปี 1991) และกำหนดคําว่า "ผู้สนับสนุน" ในภาษาญี่ปุ่น "ปัจจุบัน FUJIFILM Business Innovation ผู้สนับสนุนจากองค์กรอื่นอีกห้าราย และบริษัทพันธมิตรสามแห่ง ได้ผลัดกันทุกปีเพื่อทําหน้าที่เป็น "บริษัทที่มีหน้าที่บริหารจัดการ" ซึ่งแจกถ้วยรางวัลในรอบชิงชนะเลิศประจำจังหวัดและเข้าร่วมในงานกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ผู้สนับสนุนยังดําเนินกิจกรรมเพื่อเพิ่มคุณค่าของการแข่งขันฟุตบอลเหล่านี้ ที่เหล่าผู้เล่นตั้งใจเล่นเต็มที่ต่อเนื่อง และมีน้ำใจนักกีฬา เราจะยังคงสนับสนุนงานกิจกรรมฟุตบอลนี้ต่อไป โดยเราจะสนับสนุนนักเรียนมัธยมปลายที่ฝึกฝนอย่างหนักเพื่อเข้าร่วมและคว้าชัยชนะการแข่งขันนี้ และจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาสุขภาพของเยาวชน ซึ่งก็คือเหล่าผู้นําในอนาคตของเรานั่นเอง
ภาพถ่ายได้รับความอนุเคราะห์จาก NTV