ระบบอัจฉริยะ เพื่อสุขภาวะที่ดีขึ้น

บทความนี้จัดทําขึ้นโดยความร่วมมือกับ CNN International Commercial

ในช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมา อายุเฉลี่ยของประชากรโลกเพิ่มขึ้นจาก 66 ปี เป็น 73 ปี แต่เมื่อมนุษย์เริ่มมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น เราก็มีความเสี่ยงต่ออาการเจ็บป่วยร้ายแรงมากขึ้นด้วยเช่นกัน เช่นนี้แล้ว เทคโนโลยีจะสามารถเข้ามาช่วยในการระบุโรคตั้งแต่เนิ่นๆ และช่วยให้เรามีสุขภาวะที่ดีขึ้นได้อย่างไร

ฟูจิฟิล์มมุ่งมั่นแสวงหานวัตกรรมอันนทรงคุณค่าอยู่เสมอ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาสังคมด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้คนมีสุขภาพดีและชีวิตที่ยืนยาว บริษัทเข้าสู่ธุรกิจทางการแพทย์ในปี 1936 ด้วยผลิตภัณฑ์ฟิล์มเอกซเรย์ โดยในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1980 บริษัทได้พัฒนาภาพเอกซเรย์ดิจิทัลชิ้นแรกของโลก ด้วยการถ่ายภาพรังสีด้วยคอมพิวเตอร์ Fuji (FCR) ซึ่งถือเป็นมาตรฐานของวงการ ในปัจจุบัน ฟูจิฟิล์มยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจด้านการถ่ายภาพทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง

ซึ่งรวมถึงการเสริมความแข็งแกร่งในฐานะผู้นําด้านระบบสารสนเทศการถ่ายภาพทางการแพทย์สําหรับการจัดการและดูภาพ (PACS) ระบบ PACS ของฟูจิฟิล์มได้รับการออกแบบสำหรับการใช้งานในรูปแบบเว็บไซต์ เพื่อการแสดงผลภาพที่รวดเร็ว เสมือนเครื่องมือที่ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถเรียกดูข้อมูลในคลังรูปภาพได้หลายภาพในเวลาเดียวกัน

โซลูชัน PACS ของฟูจิฟิล์มรองรับการทํางานร่วมกันของสถานพยาบาลและช่วยเสริมประสิทธิภาพของการทำงานได้ ด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม จึงทำให้กระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาเชื่อมั่นในการใช้งาน เช่นเดียวกับสถาบันทางการแพทย์ต่างๆ ทั่วโลก

บริษัทต้องการสร้างสังคมที่ผู้คนสามารถมีสุขภาวะที่ดีและมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น ซึ่งนอกจากด้านการถ่ายภาพทางการแพทย์แล้ว ยังหมายรวมถึงการวินิจฉัยโรค การรักษา และการป้องกันโรคอีกด้วย โดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก็มีบทบาทสําคัญในการสนับสนุนการมุ่งมั่นดังกล่าว

แบ่งเบาภาระของบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย

เนื่องด้วยค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้น จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น และประชากรโลกมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น ทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนแพทย์และพยาบาลอย่างมากไปทั่วโลก จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก^*1เกือบ 2 ใน 3 ของประชากรโลกไม่สามารถเข้าถึงการถ่ายภาพเพื่อการวินิจฉัยโรคได้ การถ่ายภาพเพื่อการวินิจฉัยโรคด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยสามารถช่วยแก้ปัญหาการวินิจฉัยโรคได้ถึง 70-80% ทำให้โรงพยาบาลสามารถลดภาระของผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ และภาครัฐได้

การตรวจพบโรคตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม เท่ากับว่าผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาได้ก่อนที่อาการจะทรุดหนัก เนื่องจากการรักษาที่รวดเร็วในขณะที่อาการเจ็บป่วยยังไม่สาหัส ขั้นตอนการรักษาจึงไม่ค่อยรุนแรง

และเทคโนโลยี AI ยังช่วยให้การทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ง่ายมากขึ้น นอกจากจะมีส่วนช่วยประกอบการตัดสินใจแล้ว ระบบการทำงานอัตโนมัติในบางขั้นตอนยังสามารถช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าของแพทย์จากชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานและภาระงานที่หนักได้

*1 ข้อมูลที่เผยแพร่โดยองค์การอนามัยโลก

2 ใน 3 ของประชากรโลกไม่สามารถเข้าถึงการถ่ายภาพเพื่อการวินิจฉัยโรคได้

ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญใช้เวลาในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ประเทศสหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนแพทย์อย่างหนัก สูงถึง 124,000 คน ภายในปี 2034 ^*2ซึ่งรวมนักรังสีวิทยาอยู่ด้วย นั่นหมายถึงภาระทางการแพทย์ที่เพิ่มมากขึ้น Dr. Richard Epstein หัวหน้าเจ้าหน้าที่ข้อมูลทางการแพทย์ของ University Radiology Group เผยว่า "ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีภาพ MRI นับหลายร้อย และ CT scan หลายพันภาพ ปริมาณของภาพเหล่านี้มีจำนวนมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เป็นธรรมดาที่งานด้านรังสีวิทยาจึงต้องใช้เทคโนโลยี AI และการเรียนรู้เชิงลึกเข้ามาช่วย”

เทคโนโลยี AI สามารถช่วยให้รังสีแพทย์ใช้เวลาในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ฟูจิฟิล์มนำเสนอแพลตฟอร์มที่สามารถเชื่อมต่ออัลกอริธึม AI สำหรับโรคต่างๆ จากหลากหลายเครื่องมือเพื่อเชื่อมต่อเข้ากับ PACS ระบบเดียว แก่องค์กรด้านการดูแลสุขภาพ โดยมุ่งหวังให้แพทย์สามารถปรับปรุงกระบวนการวินิจฉัยโรคให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นได้ เมื่อนำการประมวลผลภาพของฟูจิฟิล์มมาผสานรวมกับอัลกอริธึม AI ที่ได้รับการพัฒนาแล้ว จะสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการตรวจพบความผิดปกติที่สายตาของมนุษย์อาจมองข้ามไป โดยมีเป้าหมายเพื่อการวินิจฉัยโรคที่แม่นยํายิ่งขึ้น

*2 ข้อมูลเผยแพร่โดย AAMC (สมาคมวิทยาลัยการแพทย์อเมริกัน)

รายงาน AAMC ตอกย้ำปัญหาการขาดแคลนแพทย์ที่เพิ่มขึ้น

เทคโนโลยี AI ทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์ม สามารถช่วยบุคลากรทางการแพทย์ ดังนี้

การอ่านภาพ

เทคโนโลยี AI ทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์มช่วยให้เข้าใจโครงสร้างทางกายวิภาค โดยเน้นองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง โดยการวิเคราะห์ภาพและแสดงความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้ ทําให้รังสีแพทย์แปลผลข้อมูลได้ง่ายขึ้น

การวินิจฉัยโรค

เทคโนโลยี AI ทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์มช่วยตรวจจับและแสดงรูปร่างของรอยโรคที่เกิดขึ้นได้ ทำให้เราทราบถึงความหนาแน่น และวัดขนาดของรอยโรคได้ เพิ่มประสิทธิภาพในการวินิจฉัยโรคแต่ละครั้ง และลดระยะเวลาในการแปลผลภาพได้

รายงานบันทึกผล

เทคโนโลยี AI ทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์มช่วยอํานวยความสะดวกในขั้นตอนรายงานบันทึกผลซึ่งใช้เวลายาวนาน โดยระบุขนาดและตําแหน่งรอยโรคที่เกิดขึ้นได้ด้วยภาษาทางการแพทย์

มองให้ชัดยิ่งขึ้น

เทคโนโลยี AI ทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์ม ใช้การเรียนรู้เชิงลึกซึ่งเป็นวิธีการที่ช่วยให้ AI สามารถเลียนแบบกระบวนการเรียนรู้ของมนุษย์ได้ ด้วยประสบการณ์มากมายในธุรกิจทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์ม ช่วยให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องมือและข้อมูลสําหรับการพัฒนาเทคโนโลยี AI ทางการแพทย์ได้ ซึ่งส่งผลสําเร็จเป็นอย่างมาก โดยล่าสุดคือการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับโรคปอดต่างๆ ฟูจิฟิล์มจัดจำหน่ายระบบอัลกอริธึมของตัวเองที่พัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยี AI สำหรับโรคปอด ในบางประเทศ

การรับมือกับสถานการณ์ Covid-19

โรคปอดบวมจากเชื้อไวรัส Covid-19 มีลักษณะรอยโรคเป็น "ฝ้าจาง (ground glass)" ที่โดดเด่น เทคโนโลยี AI ทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์มช่วยแสดงความเป็นไปได้ของลักษณะที่ปรากฏและทำเครื่องหมายแสดงขอบเขตพื้นที่ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยในกระบวนการวินิจฉัยโรคและการรักษา

วิธีการรักษาโรคมะเร็งปอด

เทคโนโลยี AI ทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์มสามารถตรวจจับและวัดค่าก้อนเนื้อในปอดที่น่าสงสัยซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปอดหรือโรคอื่นๆได้ โดยคาดว่าจะช่วยให้กระบวนการตรวจพบและรายงานบันทึกผลทางการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โซลูชันอัจฉริยะ

ด้วยโซลูชันของเรา ฟูจิฟิล์มมุ่งหวังให้บุคลากรทางการแพทย์ไม่ต้องทำงานที่ซ้ำซ้อน ทั้งในการวัดก้อนเนื้อและการทำรายงานบันทึกผล เพื่อที่แพทย์จะสามารถให้ความสำคัญกับการวินิจฉัยโรคและการรักษาผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่ เทคโนโลยี AI อัจฉริยะ ร่วมกับเทคโนโลยีการถ่ายภาพทางการแพทย์ที่ล้ำหน้า ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่ และให้ความช่วยเหลือแก่ระบบทางการแพทย์ในประเทศกําลังพัฒนา