กรุงเทพฯ 10 มีนาคม 2568 — ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการส่งเสริมสุขภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ด้วยการร่วมส่งเสริมการตรวจคัดกรองวัณโรคในกลุ่มผู้ที่มีเชื้อ HIV ผ่านนวัตกรรมชุดตรวจ Urine LAM สำหรับหาแอนติเจนของเชื้อวัณโรคในปัสสาวะสำหรับผู้ที่มีเชื้อ HIV โดยการคัดกรองดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างกรมควบคุมโรค กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และสำนักงานบริหารโครงการกองทุนโลก ภายใต้แนวคิด "กำแพงสังคมที่มองไม่เห็น" มุ่งเน้นการเข้าถึงกลุ่มผู้ที่มีเชื้อ HIV ที่มีความเสี่ยงต่อวัณโรคสูง โดย ฟูจิฟิล์ม ได้สนับสนุนการบริจาคชุดตรวจ Urine LAM จำนวนทั้งหมด 300 ชุด โดย 200 ชุด มอบให้แก่กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และอีก 100 ชุด แก่สถาบันบำราศนราดูร ทั้งนี้ โครงการได้จัดขึ้น ณ กรมควบคุมโรค ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางสำคัญในการป้องกันและการควบคุมโรคในประเทศไทย
ปัจจุบัน วัณโรคยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของผู้ที่มีเชื้อ HIV เนื่องจากผู้มีเชื้อ HIV จำนวนมากเข้าถึงระบบการดูแลรักษาช้าส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง จึงทำให้วัณโรคลุกลามขึ้นได้ง่าย ดังนั้นการตรวจคัดกรองวัณโรคในผู้ที่มีเชื้อเอชไอวีถือเป็นกุญแจสำคัญในการลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคนี้
นายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การติดเชื้อและเสียชีวิตจากวัณโรคในผู้ป่วย HIV ว่า “ข้อมูลการคาดการณ์จาก Thailand spectrum-AEM พบว่าในปี 2566 ประเทศไทยมีผู้ที่มีเชื้อ HIV รายใหม่ถึง 9,200 คน และมีผู้เสียชีวิตอันเนื่องจากเอดส์ทั้งสิ้น 12,072 คน โดยพบว่ามีสาเหตุหลักจากวัณโรค โดยผู้ที่มีเชื้อ HIV เสี่ยงต่อการป่วยเป็นวัณโรคมากกว่าคนทั่วไปถึง 20เท่า นอกจากนี้ ยังมีอุปสรรคในหารตรวจหาเชื้อวัณโรคในผู้ที่มีเชื้อ HIV เนื่องจากอาจตรวจไม่พบความผิดปกติจากภาพถ่ายรังสี ดังนั้นชุดตรวจ Urine LAM นับเป็นเครื่องมือสำคัญ เพราะสามารถหาแอนติเจนของเชื้อวัณโรคในปัสสาวะ ชุดตรวจแบบรู้ผลเร็ว (Rapid Test) นี้ จะช่วยตัดวงจรของวัณโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
นายแพทย์สุทัศน์ โชตนะพันธ์ ผู้อำนวยการ กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อธิบายถึงข้อดีของการใช้ชุดตรวจ Urine LAM ในผู้ที่มีเชื้อ HIV เทียบกับการคัดกรองด้วยวิธีอื่น ๆ ว่า “ผู้ที่มีเชื้อ HIV บางรายมีปริมาณเม็ดเลือดขาวต่ำ ภูมิต้านทานต่ำ ส่งผลให้การวินิจฉัยวัณโรคด้วยวิธีปกติ เช่น การเอกซเรย์ทรวงอกหรือการตรวจเสมหะ อาจให้ผลคลาดเคลื่อนหรือไม่สามารถตรวจพบเชื้อได้ แต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่อย่าง Urine LAM ซึ่งตรวจผ่านปัสสาวะ จะเข้ามาช่วยเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพ ทั้งยังครอบคลุมกลุ่มผู้ที่มีเชื้อ HIV พร้อมช่วยขับเคลื่อนการคัดกรองที่ปลอดภัยและรวดเร็ว”
แพทย์หญิงผลิน กมลวัทน์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรคและผู้อำนวยการสำนักงานบริหารโครงการกองทุนโลก กล่าวถึงการดำเนินงานเพื่อร่วมยุติวัณโรคในประเทศไทยว่า “สำนักงานบริหารโครงการกองทุนโลก ดำเนินการจัดการเงินทุนที่ได้รับการจัดสรรจากกองทุนโลก (Global Fund) ซึ่งได้เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือประเทศไทยมายาวนานกว่า 26 ปี เพื่อช่วยจัดการกับปัญหาโรคเอดส์ วัณโรค และไข้มาลาเรีย มุ่งหวังให้คนไทยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยจากโรคเหล่านี้ ในปัจจุบัน เรายังคงเดินหน้าช่วยเหลือผู้ป่วยวัณโรคภายใต้โครงการ END TB ด้วยเป้าหมายในการคัดกรองทั้งกลุ่มทั่วไปและกลุ่มผู้ที่มีเชื้อ HIV ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสุด เนื่องจากมีภูมิคุ้มกันต่ำ โดยกองทุนโลก ได้สนับสนุนการเข้าถึงการตรวจหาวัณโรคด้วยหลากหลายวิธีที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที ซึ่งช่วยลดอัตราการเสียชีวิตในผู้ที่มีเชื้อ HIV”

มร. โซ มารูโอะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด "ความร่วมมือระหว่างฟูจิฟิล์มและหน่วยงานสาธารณสุขไทยในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับการรับรู้ของสังคมเกี่ยวกับวัณโรค โดยฟูจิฟิล์ม เดินหน้าขับเคลื่อนการเข้าถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้การวินิจฉัยโรคเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ชุดตรวจ Urine LAM เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนโครงการ END TB เพื่อต่อสู้กับวัณโรค นวัตกรรมด้านสุขภาพของเราสะท้อนความมุ่งมั่นของฟูจิฟิล์ม ในการยกระดับวงการสาธารณสุขและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในสังคมไทย อันสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายใหม่ของฟูจิฟิล์มในการ ‘แต่งแต้มรอยยิ้มให้โลกของเรา’ "
ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมเพื่อยกระดับวงการสาธารณสุข ผ่านการรังสรรค์นวัตกรรมที่ช่วยให้การวินิจฉัยโรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างเท่าเทียมและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมมุ่งมั่นที่จะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองในการขับเคลื่อนภารกิจในการยุติวัณโรคภายในปี 2030 ของประเทศไทย