ที่ FUJIFILM Business Innovation เราได้เปิดตัวอุปกรณ์มัลติฟังก์ชันที่พัฒนาขึ้นเองเป็นรุ่นแรกของเราในปี 1973 ต่อมาเราได้เริ่มพัฒนาเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งก่อให้เกิดประสิทธิภาพด้านพลังงานและความสามารถด้านการใช้งานในระดับสูง ซึ่งรวมไปถึงการลดการใช้พลังงานสแตนด์บายและเทคโนโลยี Smart WelcomEyes เราได้รับรางวัล Energy Conservation Grand Prize 14 ครั้งในญี่ปุ่น (จากงานวิจัยของ FUJIFILM Business Innovation ซึ่งเป็นสถิติของอุตสาหกรรม)
เราลดการปลดปล่อย CO2 จากการใช้ผลิตภัณฑ์ของเราด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประหยัดพลังงาน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรายังมีโซลูชันที่ช่วยก่อให้เกิดรูปแบบการทํางานหลากหลายแบบ ที่ช่วยลดการเคลื่อนย้ายบุคลากรและสินค้าเพื่อช่วยให้ลูกค้าลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม
![[Diagram] เทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมที่ช่วยประหยัดพลังงานได้สูงที่ FUJIFILM Business Innovation](https://asset-fb.fujifilm.com/www/fbth/files/2025-11/6de89a2c6b0ac182f04780f07897cbd5/fig_environment_climate_en_01.png)
เทคโนโลยีการหลอมหมึกแบบ IH ที่ช่วยทําความร้อนได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องอุ่นเครื่องในโหมดสแตนด์บายหรือโหมดประหยัดพลังงาน เพื่อประหยัดพลังงานและเพิ่มความสะดวกสบาย
โดยเทคโนโลยีดังกล่าวมีอุณหภูมิการหลอมหมึกที่ต่ำกว่าของหมึกพิมพ์ EA-Eco ประมาณ 10°C ส่งผลให้มีการใช้พลังงานลดลง
การใช้ไฟ LED เป็นหน่วยการสร้างรูปภาพนั้นช่วยให้ประหยัดพื้นที่และพลังงาน พร้อมให้ภาพที่มีคุณภาพระดับสูง
เทคโนโลยีดังกล่าวเป็นเทคโนโลยีตรวจจับอัตโนมัติที่ปลุกอุปกรณ์มัลติฟังก์ชันจากโหมดพักเครื่องเมื่อตรวจพบบุคคลที่กําลังจะมาใช้อุปกรณ์ ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานและเพิ่มความสะดวกสบายไปพร้อม ๆ กัน
เทคโนโลยีนี้จะทำการควบคุมการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างละเอียดเพื่อจ่ายไฟให้เฉพาะส่วนที่จำเป็นตามฟังก์ชันที่มีการใช้งานเท่านั้น เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและประหยัดพลังงานได้มากขึ้น
เทคโนโลยีวงจรช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดปัญหาขึ้นเมื่อปิด CPU เพื่อลดการใช้พลังงานของอุปกรณ์มัลติฟังก์ชันในโหมดพักเครื่องได้เป็นอย่างยิ่ง
สําหรับ Apeos C320 z ซึ่งเราได้เปิดตัวไปในเดือนเมษายน 2021 ในญี่ปุ่นนั้น เราได้หาทางลดจํานวนชิ้นส่วนและตรวจสอบการออกแบบกับรูปแบบเครื่องใหม่ ด้วยเหตุนี้ เราจึงสามารถลดน้ำหนักเครื่องลงได้ 30% และมีปริมาตรลดลง 40% เมื่อเทียบกับอุปกรณ์รุ่นทั่วไป การลดจํานวนชิ้นส่วนและน้ำหนักของวัสดุยังช่วยลดการปลดปล่อย CO2 ได้อีกด้วย
เราส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่คํานึงถึงสิ่งแวดล้อมโดยเป็นที่ประจักษ์จากคะแนนผลิตภัณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่อยู่ในระดับต่ำของเรา (อุปกรณ์มัลติฟังก์ชัน เครื่องพิมพ์ และเครื่องพิมพ์สำหรับการผลิต) ตามเกณฑ์ที่ใช้กับทั้งกลุ่มบริษัทภายใต้โปรแกรมการรับรองผลิตภัณฑ์ Green Value ของกลุ่มบริษัท Fujifilm
นอกจากอุปกรณ์มัลติฟังก์ชันและเครื่องพิมพ์แล้ว โซลูชันและบริการต่าง ๆ ยังถือเป็นการช่วยลดการเคลื่อนย้ายของผู้คนและสินค้าซึ่งถือเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกด้วย ดังนั้น เราจึงรับรองโซลูชันและบริการต่าง ๆ ภายใต้โปรแกรมการรับรองผลิตภัณฑ์ Green Value ของกลุ่มบริษัท Fujifilm ซึ่งมีส่วนช่วยสนับสนุนลูกค้าทั้งในด้านรูปแบบการทํางานและสิ่งแวดล้อม
เราเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการปลดปล่อย CO2 ของอุปกรณ์มัลติฟังก์ชันและเครื่องพิมพ์บางรุ่นตลอดอายุการใช้งาน ตั้งแต่การจัดซื้อวัตถุดิบไปจนถึงการผลิต การจัดจําหน่าย การใช้ และการกําจัดผ่าน โปรแกรม EPD ของญี่ปุ่นโดย SuMPO
(FUJIFILM System Service)
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางความรุนแรงและความถี่ของภัยพิบัติจากสภาพอากาศที่เพิ่มขึ้น รัฐบาลท้องถิ่นจึงได้รับแรงกดดันให้เตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน ด้วยการจัดตั้งระบบการประเมินความเสียหายอย่างทันท่วงทีและทำการตัดสินใจที่เหมาะสมเพื่อปกป้องความปลอดภัยของพลเมืองและช่วยให้พวกเขากลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ภัยพิบัติในอดีตซึ่งรวมไปถึงแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ต่าง ๆ นั้น ก็มีหลายกรณีที่ต้องใช้เวลาหลายเดือนก่อนที่ผู้ประสบภัยจะได้รับใบรับรอง
FUJIFILM System Service ตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุที่ทำให้การดําเนินงานในการออกใบรับรองผู้ประสบภัยนั้นใช้เวลานานมากก็คือกระบวนการที่มนุษย์ต้องดำเนินด้วยตนเองด้วยการใช้แบบฟอร์มกระดาษที่ยุ่งยากมากมาย บริษัทจึงได้พัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ที่สนับสนุนการสํารวจของทางการเพื่อรับรองความเสียหายที่มีต่อบ้านเรือน ด้วยการใช้องค์ความรู้เกี่ยวกับการดําเนินงานของรัฐบาลในท้องถิ่นซึ่งสั่งสมมาจากประสบการณ์หลายปีของบริษัทที่คอยสนับสนุนรัฐบาลท้องถิ่นมาตลอด เมื่อปรับเปลี่ยนกระบวนการเหล่านี้เป็นระบบดิจิทัลทั้งหมด FUJIFILM System Service จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของการดําเนินงานของรัฐบาลในท้องถิ่นได้
เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนให้ได้ตามเป้าหมายของสังคม เราจึงได้ดําเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรลุเป้าหมายของกลุ่มบริษัท Fujifilm ซึ่งก็คือ "ลดการปลดปล่อย CO2 ของกลุ่มบริษัท Fujifilm ลง 50% ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2030 (เมื่อเทียบกับระดับการปลดปล่อยของปีงบประมาณ 2019)" กิจกรรมเหล่านี้รวมไปถึงการเปิดตัวอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ณ สถานที่พัฒนาและทำการผลิตของเรา การตรวจสอบกระบวนการจัดซื้อและการผลิตของเรา การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่ประหยัดพลังงาน และการทําการตรวจสอบเพื่อนําเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้กับสายการผลิตของเรา
ในเดือนกรกฎาคม 2022 เราได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ขนาดประมาณ 8,000 ตร.ม. ที่โรงงานรีไซเคิล FUJIFILM Eco-Manufacturing ในเมืองซูโจว ประเทศจีน และเริ่มดําเนินงานระบบการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ โดยระบบนี้สามารถสร้างพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 90% ของการใช้พลังงานที่โรงงาน
เราจะยังคงนําพลังงานหมุนเวียนมาใช้กับโรงงานผลิตของเราอย่างต่อเนื่อง
เรากําลังลดการใช้ไฟฟ้า น้ำเย็น และไอน้ำด้วยการเปลี่ยนการตั้งค่าอุณหภูมิและระยะเวลาการปฏิบัติงานในเวลากลางคืนของเครื่องปรับอากาศในห้องปฏิบัติการและห้องอื่น ๆ และด้วยการติดตั้งไฟ LED ด้วยเหตุนี้ เราจึงประสบความสําเร็จในการลดการปลดปล่อย CO2 รวมได้ถึง 536 ตัน สําหรับโครงการริเริ่มเหล่านี้ เราจึงได้รับรางวัล Yokohama Global Warming Countermeasures Award ครั้งที่ 7 ในญี่ปุ่น
ที่ FUJIFILM Business Innovation เราได้ส่งเสริมการปฏิรูปรูปแบบการทํางานของพนักงานของเราเอง และผลักดันให้มีการลดและรวมสํานักงานต่าง ๆ รวมไปถึงการใช้ประโยชน์จากสํานักงานย่อย ซึ่งการดำเนินการนี้ได้ลดการปล่อย CO2 จากสํานักงานของเรา และยังลดการปลดปล่อย CO2 จากการเคลื่อนที่ของพนักงานของเรา
วิศวกรของเราในพื้นที่มหานครโตเกียวไปพบลูกค้าเพื่อการบํารุงรักษาและการตรวจสอบโดยใช้ยานพาหนะไฟฟ้า จักรยานที่ใช้ร่วมกัน และรถตู้เพื่อขนส่งวัสดุสิ้นเปลือง ซึ่งช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซ CO2
โครงการริเริ่มโดยพนักงานอาสาผ่าน HASU Club
HASU Club เป็นองค์กรอาสาสมัครของผู้คนที่ทํางานให้กับ FUJIFILM Business Innovation และบริษัทในเครือ ตลอดจนผู้เกษียณอายุจากบริษัทต่าง ๆ ซึ่งดําเนินงานโดยสมาชิกอย่างสมัครใจและเป็นอิสระ กลุ่มสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของ HASU Club มีส่วนร่วมในกิจกรรมการปลูกต้นไม้และการปกป้องสิ่งแวดล้อมตามสถานที่ต่าง ๆ ในญี่ปุ่น